การติดตั้งศาลตี่จู้นั้นมิใช่เรื่องยากลำบาก พร้อมทั้งมิใช่เรื่องง่าย ก็เพราะว่าสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับความเชื่อถือของพุทธศาสนาก็คือ เราจะต้องนับถือในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระศาสนาพร้อมกันไปกับการดำรงชีวิตด้วย มิใช่จะหวังคอยโชคลาภบุญบารมีจากตี่จู้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ตัวเองไม่เคยทำบุญทำทาน ไม่เคยไหว้ตี่จู้เลย รูปร่างของศาลตี่จู้ที่ดี หลังคาของศาลเจ้าควรจะมี 2 ชั้น ขึ้นไป จึงถือได้ว่าใช้ได้ หลังคา หมายถึงที่รับโชคลาภ หลังคาไม่มีลักษณะของ ผ่าตรงกลางโชคลาภ มีเสามังกร 2 คู่ หรือ 4 ต้น หน้าของฐานรอบรั้ว มีลักษณะกว้าง ไม่คับแคบเกินดีรอบรั้วไม่โปร่ง หรือทึบเกินดี ฐานของศาลตี่จู้ น่าจะสูงพอดี
ไหนๆ ก็กล่าวถึงสัดส่วนกันแล้ว บอกก่อนว่าศาลตี่จู้นั้นอาจจะประยุกต์ใช้อย่างอื่นได้ สุดแล้วแต่ทุนทรัพย์หรือว่าความพอเหมาะ อย่างเช่น ไม้เนื้อหอม ไม้สัก หรือไม้อื่นๆ ที่ดูมั่นคง พร้อมกับทนทาน และสีสันก็ไม่จำเป็นจะต้องแดงเสมอไป ชาวจีนเชื่อว่าสีแดงนำโชค แต่ว่าการที่เราเห็นตี่จู้ส่วนใหญ่เป็นสีแดงเนื่องจากเป็นการทำตามกันมาแต่สมัยก่อนมากกว่า ตามปกติไม่ควรจะวางตี่จู้อยู่หน้าพื้นที่ เคลื่อนไหว อย่างแถวหน้าประตู หน้าบันได หน้าห้องส้วม และหน้าห้องครัว แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องตั้งตี่จู้ที่หน้าบันได การวางแผ่นหินสักราวๆ 2-3 แผ่น ลำดับลงมาตามขนาดจากเล็กไปใหญ่อาจจะช่วยได้ แผ่นหินกลุ่มนี้เสมือนเขาที่หนักแน่น เราจึงเชิญตี่จู้มาตั้งอยู่ข้างหน้าของแผ่นหินนั่นเอง
ซึ่งแนวทางภายในการเว้นเนื้อที่นี้ก็เป็นไปตามสัดส่วนของตี่จู้ใหญ่ก็เว้นที่มากหน่อย ตี่จู้กะทัดรัดก็เว้นที่น้อยหน่อย ภายในกรณีที่รูปลักษณ์ของตี่จู้ไม่เข้ากันไปกับดีไซน์ของบ้าน ราวว่าบ้านสไตล์ยุโรป แต่ว่ามีศาลตี่จู้แดง ติดตั้งอยู่ในบ้าน เป็นเหตุให้ดูโดดเด่น งดงาม แสดงถึงอำนาจ ที่มากมาย