วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

รูปร่างของตี่จู้ กับการก่อตั้งวางที่ถูกหลักการในประเพณี

การตั้งศาลตี่จู้นั้นไม่ใช่เรื่องลำบาก พร้อมทั้งไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับความเชื่อถือของพุทธศาสนาก็คือ เราจะต้องยึดถือในหลักธรรมจริยาคำสั่งสอนของศาสนาพร้อมกันไปกับการดำรงชีวิตด้วย มิใช่จะหวังคอยโชคลาภบุญบารมีจากตี่จู้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ตนเองไม่เคยทำบุญทำทาน ไม่เคยกราบไหว้ตี่จู้เลย  ประเภทของศาลตี่จู้ที่ดี หลังคาของศาลเจ้าควรจะมี 2 ชั้น ขึ้นไป จึงถือได้ว่าใช้ได้ หลังคา หมายความว่าที่รองรับโชคลาภ หลังคาไร้ลักษณะของ ผ่าใจกลางโชคลาภ มีเสามังกร 2 คู่ หรือ 4 ต้น ส่วนหน้าของฐานรอบรั้ว มีลักษณะกว้าง ไม่คับแคบเกินดีรอบรั้วไม่โปร่ง หรือว่าทึบเกินดี ฐานของศาลตี่จู้ ควรจะสูงพอดี

ไหนๆ ก็กล่าวถึงรูปทรงกันแล้ว บอกก่อนว่าศาลตี่จู้นั้นอาจจะประยุกต์ใช้อย่างอื่นได้ แล้วแต่ทุนทรัพย์หรือว่าความพอเหมาะ ตัวอย่างเช่น ไม้เนื้อหอม ไม้สัก หรือว่าไม้อื่นๆ ที่ดูแข็ง และทนทาน พร้อมกับสีสันก็ไม่จำเป็นจะต้องแดงเสมอไป คนจีนเชื่อว่าสีแดงให้โชค แต่ถ้าว่าการที่เราเห็นตี่จู้ส่วนมากเป็นสีแดงเพราะว่าเป็นการทำตามกันมาแต่สมัยก่อนมากกว่า ตามปกติไม่ควรจะวางตี่จู้อยู่หน้าพื้นที่ เคลื่อนไหว อย่างแถวหน้าประตู หน้ากระได หน้าห้องส้วม และหน้าครัว แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องตั้งตี่จู้ที่หน้าบันได การปิดแปะแผ่นหินสักโดยประมาณ 2-3 แผ่น ลำดับสูง-ต่ำลงมาตามขนาดจากเล็กไปใหญ่อาจจะช่วยได้ แผ่นหินเหล่านี้เหมือนภูผาที่หนักแน่น เราจึงอัญเชิญตี่จู้มาตั้งอยู่ข้างหน้าของแผ่นหินนั่นเอง



ซึ่งหลักการในการเว้นบริเวณนี้ก็เป็นไปตามขนาดของตี่จู้ใหญ่โตก็เว้นที่มากหน่อย ตี่จู้กะทัดรัดก็เว้นที่น้อยหน่อย ภายในกรณีที่รูปลักษณ์ของตี่จู้ไม่เข้ากันไปกับดีไซน์ของบ้าน ราวว่าบ้านสไตล์ยุโรป แต่ทว่ามีศาลตี่จู้แดง ติดตั้งอยู่ภายในบ้าน ทำเอาดูเด่น สวยหรู แสดงถึงอำนาจ ที่มหาศาล