ขณะความศรัทธาหลายๆคน รวมเข้าพร้อมกันก่อให้เกิดเป็นความเชื่อถือที่เต็มที่ จนไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าศาลตี่จู้เอี้ยะกับความเลื่อมใส อะไรอุบัติขึ้นก่อนกัน รู้แต่เพียงว่าการล่วงขัดขืนบทข้อกำหนดนั้นจะมีโทษทั้งทางสังคมพร้อมทั้งความเชื่อ ซึ่งจะพบได้มากในจีน ไทย พร้อมกับเอเชีย ความเชื่อถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนมายาวนานแล้ว ตั้งแต่ยุคปู่ย่าตายายและถูกสอนมาสู่รุ่นลูกหลาน มาจนถึงสมัยนี้ความเลื่อมใสก็ยังคงอยู่คู่กับคนเรา ไม่ว่าจะเป็นความศรัทธาในเรื่องสิ่งน่าเลื่อมใส เรื่องปีศาจวิญญาณ และแม้กระทั่งเรื่องของศาลตี่จู้เอี้ยะก็เช่นกัน
วจีว่า ศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นในความนัยเบื้องต้นก็ไม่ต่างจากศาลเจ้ามากนัก ซึ่งก็คือ สิ่งน่าศรัทธาในแบบอย่างของภูตผีหรือว่าสิ่งที่สัมผัสไม่ได้พร้อมทั้งมองด้วยตาเปล่ามิได้ ตามความเลื่อมใสนั้นสิ่งนี้จะคอยดูแลพื้นที่ในแต่ละส่วนของตนเหมือนอาณาเขตพร้อมทั้งคอยกันไม่ให้วิญญาณชั่วร้ายหรือว่าวิญญาณร่อนเร่เข้ามาในอาณาบริเวณที่ตนคุ้มครองอยู่รวมถึงมนุษย์ที่เข้ามาโดยไม่ได้อนุญาตด้วยเช่นเดียวกัน หลายๆคนคงจะเคยเห็นศาลตี่จู้เอี้ยะบางที่บางพื้นที่ ที่สร้างเอาไว้ถึงสองหลังโดยหลังแรกเริ่มนั้นก็คือศาลตี่จู้เอี้ยะที่มีไว้เพื่อพระภูมิประจำบ้าน ซึ่งคงเป็นเทวดาหรือว่าอาจจะเป็นภูตผีก็ได้ ส่วนอีกหลังนั้นจะมีสัดส่วนเล็กกว่าหรือเตี้ยกว่า ในการตั้งตี่จู้เอี้ยะ ก็มีหลักการคล้ายๆ ศาลพระภูมิของคนไทย คือตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง เพื่อครอบครัวที่พักอาศัยในคอนโดหรือคิดจะติดตั้งตี่จู้เอี้ยะที่ดาดฟ้า ก็หมดสิทธิ์ที่จะได้ลาภลอยจากตี่จู้
