ความสำคัญกับเทคนิคในการวางตี่จู้เอี้ยะ

มีศาลพระภูมิอีกแบบหนึ่งถ้าไม่พูดถึงเลยก็อย่างไรอยู่ ศาลเจ้าที่แบบจีนหรือ ศาลตี่จู้เอี้ยะ รูปร่างเด่นๆ ถ้ากล่าวตามภาษาเลย ก็คล้ายๆ ศาลเจ้าจีน มีหลังคาแบบอย่างจีนดูสวยงามพร้อมทั้งชัดที่สุดก็หมายถึง ทั้งหลังเป็นสีแดง ตี่จู้ หรือว่า ศาลเจ้าที่จีน มักเห็นมากตามห้องหรือว่าบ้านของผู้ที่มีเชื้อสายจีนซึ่งคำๆ นี่ถ้าแปลความก็คือ ตี่ หมายความว่า ดิน จู้ หมายความว่า เจ้า  บางแห่งก็ตั้งชื่อว่า ตี่จู้เอี้ยะ รวมคำก็โดยประมาณว่า เจ้าที่ เพียงชื่อก็ทราบแล้วว่า การวางตี่จู้ต้องติดดินเจ้าที่จึงจะมีพลัง

ซึ่งภายในการวางตี่จู้เอี้ยะ ก็มีความเชื่อคลับคล้าย ศาลพระภูมิของชาวไทยคือตั้งได้โดยเจาะจงด้านล่าง เพราะครอบครัวที่พักอาศัยหรือคิดจะติดตั้งตี่จู้ไว้ชั้นดาดฟ้า ก็หมดสิทธิ์ที่จะได้โชคลาภจากตี่จู้ ผิดไปจากศาลเจ้าที่อาจจะตั้งบนดาดฟ้าได้  การตั้งตี่จู้นั้นเราจะตั้งตี่จู้ไว้ทางด้านซ้ายหรือว่าทางขวามือของตัวเรือนก็ได้ ต้องดูพื้นที่ของตี่จู้รวมกันไปด้วย ถ้าพื้นที่ที่จะติดตั้งตี่จู้อยู่ลึกเข้าไปข้างในตัวบ้าน หรือเป็นเนื้อที่ที่ต่ำกว่าถนน น่าจะทำฐานรับตี่จู้ให้สูงเท่ากันระดับตัวถนน เพื่อเจ้าที่ที่อาศัยอยู่ภายในตี่จู้อาจสังเกตเห็นเบื้องหน้าได้ดียิ่งขึ้น

ที่สำคัญการทำที่รอง หมายความถึงฐานรากที่แข็งแรงของชีวิต พร้อมทั้งถือเป็นการรองรับโชคลาภอำนาจที่จะเข้ามาด้วย บางบ้านเรือนที่ต้องการวางตี่จู้ลงข้างในตู้โชว์ จะเพื่อความงดงาม หรือว่าเพื่อความพอดีก็ตามแต่ จะต้องเว้นเนื้อที่ด้านข้างทั้งซ้ายและขวาพร้อมด้วยข้างบนของตี่จู้

เกร็ดประวัติศาสตร์พร้อมทั้งความเลื่อมใสของศาลตี่จู้เอี้ยะที่ทุกท่านไม่ทราบ

เหตุของตำนาน การคิดค้นศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นอุบัติขึ้นมาจากสมัยก่อน ซึ่งได้รับอำนาจจากการสืบทอดความเลื่อมใสมาจากพระพุทธศาสนาและจีน แต่โดยปรกติแล้วจะมุ่งเน้นไปทางด้านประเทศจีนเสียมากกว่า โดยเริ่มต้นนั้นส่วนใหญ่คนยุคก่อนนั้นจะมีความศรัทธาเรื่องภูตผีวิญญาณอยู่ก่อนแล้ว จะมองเห็นได้จากความเชื่อถือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น

ขณะความเลื่อมใสหลายๆคน รวมเข้าร่วมกันก่อให้เกิดเป็นความเลื่อมใสที่แรงกล้า จนไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าศาลตี่จู้เอี้ยะกับความศรัทธา อะไรอุบัติขึ้นก่อนกัน รู้แต่แค่ว่าการล่วงฝ่าฝืนบทข้อกำหนดนั้นจะมีความผิดทั้งทางสังคมพร้อมกับความเชื่อ ซึ่งจะพบได้มากในจีน ไทย พร้อมทั้งเอเชีย ความศรัทธาคือสิ่งที่อยู่คู่กับคนมาเป็นเวลายาวนานแล้ว ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายและถูกถ่ายทอดมาสู่รุ่นบุตรหลาน มาจนถึงสมัยนี้ความเลื่อมใสก็ยังคงอยู่คู่กับคนเรา ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องปีศาจดวงวิญญาณ และแม้กระทั่งเรื่องของศาลตี่จู้เอี้ยะก็เช่นเดียวกัน

คำพูดว่า ศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นในความนัยเบื้องต้นก็ไม่แตกต่างจากศาลมากนัก ซึ่งก็คือ สิ่งน่าเลื่อมใสในรูปแบบของภูตผีหรือสิ่งที่แตะต้องไม่ได้พร้อมทั้งมองด้วยตาเปล่ามิได้ ตามความเชื่อถือนั้นสิ่งนี้จะคอยดูแลสถานที่ในแต่ละส่วนของตนเปรียบเสมือนอาณาเขตพร้อมทั้งคอยกันไม่ให้ภูตผีชั่วร้ายหรือวิญญาณพเนจรเข้ามาในอาณาบริเวณที่ตนปกครองอยู่รวมไปถึงคนที่เข้ามาโดยมิได้อนุญาตด้วยเหมือนกัน หลายๆคนอาจเคยเจอศาลตี่จู้เอี้ยะบางที่บางแห่ง ที่สร้างเอาไว้ถึงสองหลังโดยหลังแรกเริ่มนั้นก็เป็นศาลตี่จู้เอี้ยะที่มีไว้สำหรับพระภูมิประจำบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นเทวดาหรือคงจะเป็นวิญญาณก็ได้ ส่วนอีกหลังนั้นจะมีสัดส่วนเล็กกว่าหรือเตี้ยกว่า ในการตั้งตี่จู้เอี้ยะ ก็มีหลักการคล้ายๆ ศาลเจ้าของชาวไทย คือตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง  เพราะครอบครัวที่อยู่อาศัยภายในคอนโดมิเดียมหรือว่าคิดจะตั้งตี่จู้เอี้ยะที่ชั้นดาดฟ้า ก็หมดสิทธิที่จะได้โชคลาภจากตี่จู้

นิทานประวัติศาสตร์พร้อมทั้งความเลื่อมใสของศาลตี่จู้เอี้ยะที่ทุกคนไม่เข้าใจ

เหตุของตำนาน การปลูกสร้างศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นอุบัติขึ้นมาจากสมัยเก่า ซึ่งได้รับอำนาจจากการสืบทอดความเชื่อมาจากพระพุทธศาสนากับจีน แต่ว่าโดยปกติแล้วจะเน้นไปทางด้านประเทศจีนเสียยิ่งกว่า โดยเบื้องต้นนั้นโดยมากคนยุคก่อนนั้นจะมีความเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณอยู่ก่อนแล้ว จะมองเห็นได้จากความเลื่อมใส สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

ขณะความศรัทธาหลายๆคน รวมเข้าด้วยกันก่อให้เกิดเป็นความศรัทธาที่เต็มที่ จนไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าศาลตี่จู้เอี้ยะกับความเชื่อ อะไรมีขึ้นก่อนกัน รู้แต่แค่ว่าการล่วงละเมิดบทบัญญัตินั้นจะมีโทษทัณฑ์ทั้งทางสังคมพร้อมทั้งความเชื่อ ซึ่งจะพบเห็นได้มากในประเทศจีน ไทย พร้อมทั้งเอเชีย ความเชื่อถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาเป็นเวลายาวนานแล้ว ตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษและถูกถ่ายทอดมาสู่รุ่นบุตรหลาน มาจนถึงปัจจุบันนี้ความศรัทธาก็ยังคงอยู่คู่กับคนเรา ไม่ว่าจะเป็นความศรัทธาในเรื่องสิ่งน่าศรัทธา เรื่องผีดวงวิญญาณ พร้อมทั้งกระทั่งเรื่องของศาลตี่จู้เอี้ยะก็เช่นกัน

คำพูดว่า ศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นในคำจำกัดความเบื้องต้นก็ไม่ต่างจากศาลพระภูมิมากนัก ซึ่งก็คือ สิ่งน่านับถือในแบบอย่างของวิญญาณหรือสิ่งที่สัมผัสไม่ได้และมองด้วยตาเปล่าไม่ได้ ตามความเลื่อมใสนั้นสิ่งนี้จะคอยดูแลสถานที่ในแต่ละส่วนของตนเปรียบเสมือนอาณาเขตพร้อมกับคอยกันไม่ให้วิญญาณชั่วร้ายหรือว่าวิญญาณร่อนเร่เข้ามาภายในอาณาบริเวณที่ตนปกครองอยู่รวมไปถึงคนที่เข้ามาโดยมิได้อนุญาตด้วยเหมือนกัน หลายๆคนคงเคยดูศาลตี่จู้เอี้ยะบางที่บางพื้นที่ ที่สร้างเอาไว้ถึงสองหลังโดยหลังแรกเริ่มนั้นก็เป็นศาลตี่จู้เอี้ยะที่มีไว้เพื่อเจ้าที่ประจำบ้าน ซึ่งคงเป็นเทวดาหรือคงจะเป็นดวงวิญญาณก็ได้ ส่วนอีกหลังนั้นจะมีสัดส่วนเล็กกว่าหรือว่าเตี้ยกว่า ในการตั้งตี่จู้เอี้ยะ ก็มีหลักการคล้ายๆ ศาลของคนไทย เป็นตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง  เพราะครอบครัวที่อยู่อาศัยในคอนโดหรือว่าคิดจะติดตั้งตี่จู้เอี้ยะที่ดาดฟ้า ก็หมดสิทธิ์ที่จะได้โชคลาภจากตี่จู้

นิทานประวัติศาสตร์และความเชื่อถือของศาลตี่จู้เอี้ยะที่ใครๆไม่เข้าใจ

เหตุการณ์ของตำนาน การคิดค้นศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นอุบัติขึ้นมาจากสมัยเก่า ซึ่งได้รับอำนาจจากการตกทอดความเลื่อมใสมาจากพุทธศาสนาและจีน แต่ทว่าโดยปกติแล้วจะมุ่งเน้นไปทางด้านประเทศจีนเสียมากกว่า โดยเริ่มต้นนั้นจำนวนมากมนุษย์ยุคก่อนนั้นจะมีความเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณอยู่ก่อนแล้ว จะสังเกตเห็นได้จากความศรัทธา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น

ขณะความศรัทธาหลายๆคน รวมเข้าพร้อมกันก่อให้เกิดเป็นความเชื่อถือที่เต็มที่ จนไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าศาลตี่จู้เอี้ยะกับความเลื่อมใส อะไรอุบัติขึ้นก่อนกัน รู้แต่เพียงว่าการล่วงขัดขืนบทข้อกำหนดนั้นจะมีโทษทั้งทางสังคมพร้อมทั้งความเชื่อ ซึ่งจะพบได้มากในจีน ไทย พร้อมกับเอเชีย ความเชื่อถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนมายาวนานแล้ว ตั้งแต่ยุคปู่ย่าตายายและถูกสอนมาสู่รุ่นลูกหลาน มาจนถึงสมัยนี้ความเลื่อมใสก็ยังคงอยู่คู่กับคนเรา ไม่ว่าจะเป็นความศรัทธาในเรื่องสิ่งน่าเลื่อมใส เรื่องปีศาจวิญญาณ และแม้กระทั่งเรื่องของศาลตี่จู้เอี้ยะก็เช่นกัน

วจีว่า ศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นในความนัยเบื้องต้นก็ไม่ต่างจากศาลเจ้ามากนัก ซึ่งก็คือ สิ่งน่าศรัทธาในแบบอย่างของภูตผีหรือว่าสิ่งที่สัมผัสไม่ได้พร้อมทั้งมองด้วยตาเปล่ามิได้ ตามความเลื่อมใสนั้นสิ่งนี้จะคอยดูแลพื้นที่ในแต่ละส่วนของตนเหมือนอาณาเขตพร้อมทั้งคอยกันไม่ให้วิญญาณชั่วร้ายหรือว่าวิญญาณร่อนเร่เข้ามาในอาณาบริเวณที่ตนคุ้มครองอยู่รวมถึงมนุษย์ที่เข้ามาโดยไม่ได้อนุญาตด้วยเช่นเดียวกัน หลายๆคนคงจะเคยเห็นศาลตี่จู้เอี้ยะบางที่บางพื้นที่ ที่สร้างเอาไว้ถึงสองหลังโดยหลังแรกเริ่มนั้นก็คือศาลตี่จู้เอี้ยะที่มีไว้เพื่อพระภูมิประจำบ้าน ซึ่งคงเป็นเทวดาหรือว่าอาจจะเป็นภูตผีก็ได้ ส่วนอีกหลังนั้นจะมีสัดส่วนเล็กกว่าหรือเตี้ยกว่า ในการตั้งตี่จู้เอี้ยะ ก็มีหลักการคล้ายๆ ศาลพระภูมิของคนไทย คือตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง  เพื่อครอบครัวที่พักอาศัยในคอนโดหรือคิดจะติดตั้งตี่จู้เอี้ยะที่ดาดฟ้า ก็หมดสิทธิ์ที่จะได้ลาภลอยจากตี่จู้

เกร็ดตำนานพร้อมทั้งความเชื่อของศาลตี่จู้เอี้ยะที่ใครๆไม่ทราบ

เหตุการณ์ของประวัติศาสตร์ การคิดค้นศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นเกิดขึ้นมาจากอดีตสมัย ซึ่งได้รับอำนาจจากการรับช่วงต่อความเชื่อมาจากพระพุทธศาสนาพร้อมทั้งจีน แต่ถ้าว่าโดยปกติแล้วจะมุ่งเน้นไปทางด้านประเทศจีนเสียยิ่งกว่า โดยแรกเริ่มนั้นโดยมากมนุษย์ยุคก่อนนั้นจะมีความเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณอยู่ก่อนแล้ว จะมองเห็นได้จากความเลื่อมใส สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

เมื่อความศรัทธาหลายๆคน รวมเข้าด้วยกันก่อให้เกิดเป็นความศรัทธาที่เต็มที่ จนไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าศาลตี่จู้เอี้ยะกับความเลื่อมใส อะไรอุบัติขึ้นก่อนกัน รู้แต่เพียงว่าการล่วงละเมิดบทบัญญัตินั้นจะมีโทษทัณฑ์ทั้งทางสังคมพร้อมทั้งความเชื่อ ซึ่งจะพบได้มากในประเทศจีน ไทย พร้อมกับทวีปเอเชีย ความเลื่อมใสคือสิ่งที่อยู่คู่กับคนมายาวนานแล้ว ตั้งแต่สมัยต้นตระกูลและถูกสอนมาสู่รุ่นลูกหลาน มาจนถึงปัจจุบันนี้ความเลื่อมใสก็ยังคงอยู่คู่กับมนุษย์เรา ไม่ว่าจะเป็นความศรัทธาในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องผีดวงวิญญาณ พร้อมทั้งแม้กระทั่งเรื่องของศาลตี่จู้เอี้ยะก็เช่นกัน

วจีว่า ศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นภายในคำจำกัดความเบื้องต้นก็ไม่แตกต่างจากศาลพระภูมิมากนัก ซึ่งก็คือ สิ่งน่าเลื่อมใสในแบบของดวงวิญญาณหรือว่าสิ่งที่แตะต้องไม่ได้กับมองด้วยตาเปล่ามิได้ ตามความศรัทธานั้นสิ่งนี้จะคอยดูแลพื้นที่ภายในแต่ละส่วนของตนเหมือนกับอาณาเขตกับคอยกันไม่ให้วิญญาณชั่วร้ายหรือว่าวิญญาณพเนจรเข้ามาในอาณาเขตที่ตนปกครองอยู่รวมไปถึงมนุษย์ที่เข้ามาโดยไม่ได้อนุญาตด้วยเหมือนกัน หลายๆคนอาจเคยเจอศาลตี่จู้เอี้ยะบางที่บางแห่ง ที่ปลูกสร้างเอาไว้ถึงสองหลังโดยหลังแรกนั้นก็คือศาลตี่จู้เอี้ยะที่มีไว้เพื่อพระภูมิเจ้าที่ประจำบ้าน ซึ่งอาจเป็นเทวดาหรือว่าอาจจะเป็นวิญญาณก็ได้ ส่วนอีกหลังนั้นจะมีสัดส่วนเล็กกว่าหรือเตี้ยกว่า ในการตั้งตี่จู้เอี้ยะ ก็มีหลักการคล้ายๆ ศาลพระภูมิของคนไทย เป็นตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง  เพื่อครอบครัวที่อยู่อาศัยภายในคอนโดมิเดียมหรือว่าคิดจะตั้งตี่จู้เอี้ยะที่ชั้นดาดฟ้า ก็หมดสิทธิที่จะได้ลาภลอยจากตี่จู้

นิทานประวัติศาสตร์พร้อมทั้งความเชื่อของศาลตี่จู้เอี้ยะที่ทุกท่านไม่ทราบ

เหตุของตำนาน การก่อสร้างศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นเกิดขึ้นมาจากสมัยก่อน ซึ่งได้รับอำนาจจากการรับช่วงต่อความเลื่อมใสมาจากพระพุทธศาสนาพร้อมทั้งจีน แต่ทว่าโดยปกติธรรมดาแล้วจะเน้นหนักไปทางด้านจีนเสียยิ่งกว่า โดยเบื้องต้นนั้นส่วนมากมนุษย์ยุคก่อนนั้นจะมีความเชื่อถือเรื่องภูตผีวิญญาณอยู่ก่อนแล้ว จะมองเห็นได้จากความเลื่อมใส สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด

ขณะความศรัทธาหลายๆคน รวมเข้าพร้อมกันก่อให้เกิดเป็นศรัทธาที่แรงกล้า จนไม่อาจรู้ได้เลยว่าศาลตี่จู้เอี้ยะกับความเลื่อมใส อะไรเกิดขึ้นก่อนกัน รู้แต่แค่ว่าการล่วงละเมิดบทข้อบังคับนั้นจะมีผลร้ายทั้งทางสังคมพร้อมทั้งความเชื่อ ซึ่งจะเจอได้มากในจีน ไทย พร้อมทั้งทวีปเอเชีย ความเลื่อมใสคือสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาเป็นเวลายาวนานแล้ว ตั้งแต่ยุคปู่ย่าตายายและถูกสอนมาสู่รุ่นลูกหลาน มาจนถึงทุกวันนี้ความเลื่อมใสก็ยังคงอยู่คู่กับคนเรา ไม่ว่าจะเป็นความศรัทธาในเรื่องสิ่งน่าเลื่อมใส เรื่องปีศาจดวงวิญญาณ พร้อมกับกระทั่งเรื่องของศาลตี่จู้เอี้ยะก็เช่นกัน

คำกล่าวว่า ศาลตี่จู้เอี้ยะ นั้นภายในความหมายเบื้องต้นก็ไม่ต่างจากศาลพระภูมิมากนัก ซึ่งก็คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแบบของดวงวิญญาณหรือสิ่งที่สัมผัสไม่ได้พร้อมกับมองด้วยตาเปล่าไม่ได้ ตามความเลื่อมใสนั้นสิ่งนี้จะคอยดูแลสถานที่ภายในแต่ละส่วนของตนเหมือนกับอาณาเขตพร้อมทั้งคอยกันไม่ให้ภูตผีชั่วร้ายหรือวิญญาณร่อนเร่เข้ามาภายในเขตที่ตนดูแลอยู่รวมถึงมนุษย์ที่เข้ามาโดยไม่ได้อนุญาตด้วยเช่นกัน หลายๆคนอาจเคยพบศาลตี่จู้เอี้ยะบางที่บางพื้นที่ ที่ปลูกสร้างเอาไว้ถึงสองหลังโดยหลังเริ่มแรกนั้นก็เป็นศาลตี่จู้เอี้ยะที่มีไว้เพื่อพระภูมิประจำบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นเทวดาหรืออาจจะเป็นวิญญาณก็ได้ ส่วนอีกหลังนั้นจะมีขนาดเล็กกว่าหรือเตี้ยกว่า ในการตั้งตี่จู้เอี้ยะ ก็มีหลักการคล้ายๆ ศาลของชาวไทย คือตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง  เพื่อครอบครัวที่อยู่อาศัยภายในคอนโดหรือคิดจะตั้งตี่จู้เอี้ยะที่ชั้นดาดฟ้า ก็หมดสิทธิ์ที่จะได้โชคลาภจากตี่จู้

Cr. https://th-th.facebook.com/tanglaikheeshop

ความเชื่อถือ กับวิชาความรู้ที่เกี่ยวเนื่องพร้อมกับศาลตี่จู้เอี้ยะ

คนสมัยเก่าเมื่อเคารพบูชาตี่จู้เอี้ยะหรือว่าสิ่งน่าศรัทธาแล้วเห็นพบด้วยตัวเองว่า พรที่ร่ำขอไปนั้นสำเร็จผล จึงได้รับพรและการปกป้องรักษาจากสิ่งน่าศรัทธาที่ตนบูชา ความอัศจรรย์ที่อุบัติขึ้นจากการไหว้ การสักการะตี่จู้เอี้ยะเป็นไปด้วยจิตอันความเลื่อมใสจริงจัง

ปัจจุบันนี้ยังมีผู้ที่ตั้งตัวเป็นผู้รู้พร้อมกับเสนอแนะกันไปอย่างผิดทิศทางจากแนวทางแต่เก่าที่มีมา หากปฏิบัติอย่างเหมาะสมก็ย่อมจะเกิดโชคลาภพร้อมทั้งความก้าวหน้าแก่ตนพร้อมทั้งครอบครัวสืบเนื่อง ขณะทำตามอย่างข้อเสนอ อย่าลืมวางตัวปฎิบัติตนให้ดำรงไปในหนทางแห่งข้อห้ามและธรรมด้วยอีกทางหนึ่งจึงจะรุ่งเรื่องได้โดยชอบธรรม  คนไทยเรามีความศรัทธาในเรื่องของการไหว้สักการะตี่จู้เอี้ยะสิ่งน่าศรัทธามาแต่เก่าแก่แล้ว จากความศรัทธาของมนุษย์เราแต่บรรพกาลที่มีการไหว้ผี เคารพผี มาสู่การกราบเทพ เทวดาต่างๆ เพื่อให้เทพตี่จู้เอี้ยะนั้นดูแลคุ้มครองรักษาเราให้อยู่ดีมีความสบายและปราศจากจากเคราะห์ร้ายภัยต่างๆ  ยามป่วยไข้ หรือประสบเภทภัยก็จะกราบไหว้ขอให้ตี่จู้เอี้ยะเทวดารักษา พร้อมกับอวยพรให้ นี่คือความเลื่อมใสที่สืบถอทกันมาช้านานแล้ว

การไหว้ตี่จู้เอี้ยะเป็นความศรัทธาที่ทำให้ตัวมนุษย์มีความนับถือพร้อมกับความระแวดระวังในการครองชีวิต ช่วยให้นับถือทำตัวภายในสิ่งที่ดีมีศีลมีคุณความดี ไม่ทำตัวหยาบคายทำกรรมไปตามตัณหาอำเภอใจ นั่นย่อมเป็นคุณประโยชน์อย่างแรกที่ย่อมส่งผลที่ดีงามต่อชีวิต ส่วนเรื่องพระภูมิตี่จู้เอี้ยะนั้นก็เป็นการแสดงถึงความรู้สึกที่ยกย่องนับถือในผู้ที่พิทักษ์รักษาที่ทางที่เราพักอาศัย ด้านผลพลังทางปาฏิหาริย์ที่จะมีขึ้นแก่ใครเช่นใดบ้างนั้นเป็นเรื่องที่ทดลองได้ด้วยตนเองอย่างเดียว